กล่องใส่ไก่ทอด ควรใช้กล่องกระดาษแบบไหนดี เรามีแนะนำ

สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับกล่องใส่ไก่ทอดที่เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารทอดเหมาะกับธุรกิจร้านอาหารสมัยใหม่ ทั้งประเภทกระดาษ คุณสมบัติ และประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณว่าควรเลือกใช้งานแบบไหนถึงเหมาะสม เรามีแนะนำ

กล่องกระดาษสำหรับไก่ทอดเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้ง่าย ปัจจุบันมีการนำกล่องกระดาษมาใช้แทนภาชนะพลาสติกในธุรกิจร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารประเภทของทอดและของว่างอย่างแพร่หลายมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกล่องใส่ไก่ทอดเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารที่กำลังเป็นที่นิยมในวงการแพคเกจจิ้งยุคใหม่

การเลือกประเภทกระดาษให้เหมาะกับธุรกิจ

1. พิจารณาลักษณะของอาหาร: อาหารที่มีน้ำมันมากควรเลือกกระดาษที่มีคุณสมบัติกันน้ำมันที่ดี
2. คำนึงถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์: เลือกประเภทกระดาษที่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์ เช่น มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
3. ดูงบประมาณและปริมาณการสั่งซื้อ: บางประเภทอาจมีราคาสูงกว่า แต่อาจคุ้มค่าในระยะยาว
4. ตรวจสอบข้อกำหนดทางกฎหมาย: บางประเทศอาจมีข้อกำหนดเฉพาะสำหรับวัสดุที่ใช้กับอาหาร
5. ทดสอบการใช้งานจริง: ทดลองใช้กระดาษหลายประเภทเพื่อหาตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

ประเภทกระดาษที่เราแนะนำ สำหรับทำกล่องไก่ทอด

กล่องใส่ไก่ทอดมักทำจากกระดาษที่มีคุณสมบัติหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับการบรรจุอาหารและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นี่คือประเภทของกระดาษที่นิยมใช้:

1.กระดาษลูกฟูก

• คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและสามารถป้องกันการกระแทกได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการขนส่งไก่ทอด
• ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: กระดาษลูกฟูกสามารถรีไซเคิลได้ง่าย จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ข้อดี

• ความแข็งแรง: กระดาษลูกฟูกมีความแข็งแรงสูง สามารถป้องกันการกระแทกและรักษาคุณภาพของไก่ทอดได้ดี
• น้ำหนักเบา: ทำให้สะดวกในการขนส่งและจัดเก็บ
• รีไซเคิลได้: เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

ข้อเสีย

• ไม่กันน้ำ: หากไม่มีการเคลือบกันน้ำ อาจไม่สามารถป้องกันความชื้นได้ดี
• ราคา: อาจมีราคาสูงกว่ากระดาษประเภทอื่นในบางกรณี

2.กระดาษคราฟท์

• คุณสมบัติ: เป็นกระดาษที่มีความหนาและทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานในบรรจุภัณฑ์อาหาร กระดาษคราฟท์มีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี ช่วยลดความชื้นภายในกล่อง แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กระดาษคราฟท์สามารถรีไซเคิลได้ง่ายและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

ข้อดี

• ความปลอดภัย: กระดาษคราฟท์มีความปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน ทำให้สามารถใช้บรรจุอาหารได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสารเคมีที่อาจปนเปื้อนในอาหาร
• ความแข็งแรงและทนทาน: กระดาษคราฟท์มีความหนาและแข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักของไก่ทอดได้ดี ช่วยป้องกันการเสียรูปหรือการแตกหักระหว่างการขนส่ง
• เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: กระดาษคราฟท์เป็นวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายและรีไซเคิลได้ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อเสีย

• กล่องคราฟท์ธรรมดาอาจซึมน้ำมันได้
• กระดาษคราฟท์อาจไม่สามารถทนต่อความชื้นหรือของเหลวได้ดี หากไม่มีการเคลือบผิวให้กันน้ำ อาจทำให้กล่องชำรุดหรืออาหารเสียคุณภาพได้
• ในบางกรณี กระดาษคราฟท์อาจมีราคาสูงกว่ากระดาษประเภทอื่น ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น

3.กระดาษอาร์ตการ์ด

• คุณสมบัติ: มีความหนาและความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับการพิมพ์ลวดลายและโลโก้
• การสร้างภาพลักษณ์: ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะเมื่อต้องการใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม

ข้อดี

• คุณภาพการพิมพ์สูง: สามารถพิมพ์ลวดลายและโลโก้ได้อย่างชัดเจน ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
• ความหนาและแข็งแรง: มีความหนาและแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับการบรรจุอาหาร

ข้อเสีย

• ไม่กันน้ำ และกระดาษอาร์ตการ์ดไม่สามารถทนต่อความชื้นได้ดี อาจทำให้เกิดความเสียหายกับอาหารได้
• มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนในการขนส่งสูงขึ้น

ขนาดกล่องใส่ไก่ทอดแต่ละขนาด

1.ขนาดกล่องไก่ทอด (Size S)

• ขนาดประมาณ 12.7 × 8.9 × 9.2 ซม.
• สามารถใส่ไก่ทอดได้ประมาณ 1 ชิ้น

2.ขนาดกล่องไก่ทอด (Size M)

• ขนาดประมาณ 17.6 × 10.6 × 7 ซม.
• สามารถใส่ไก่ทอดได้ประมาณ 2-3 ชิ้น

3.ขนาดกล่องไก่ทอด (Size L)

• ขนาดประมาณ 20 × 13 × 9.5 ซม.
• สามารถใส่ไก่ทอดได้ประมาณ 3-4 ชิ้น

ข้อควรพิจารณาในการเลือกกล่องใส่ไก่ทอด

1. ขนาดและความจุ: เลือกให้เหมาะกับปริมาณอาหารที่ต้องการบรรจุ
2. คุณสมบัติการกันซึมและกันมัน: สำคัญมากสำหรับอาหารทอด
3. การระบายความร้อน: ช่วยรักษาคุณภาพของอาหารทอดให้กรอบนานขึ้น
4. ความปลอดภัยต่ออาหาร: เลือกกล่องที่ผลิตจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน เช่น มอก. 3438- หรือกล่องควรทำจากกระดาษที่ได้รับการรับรองว่าเป็น Food Grade ซึ่งปลอดภัยสำหรับการสัมผัสกับอาหารโดยตรง
5. ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: พิจารณากล่องที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
6. ความสะดวกในการใช้งาน: กล่องควรขึ้นรูปง่ายและพับเก็บสะดวก

เคล็ดลับการออกแบบกล่องใส่ไก่ทอด

การออกแบบกล่องใส่ไก่ทอดไม่เพียงแต่ช่วยในการบรรจุและขนส่งอาหาร แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์และดึงดูดลูกค้า นี่คือเคล็ดลับในการออกแบบกล่องใส่ไก่ทอดที่มีประสิทธิภาพ

1.เลือกวัสดุที่เหมาะสม

• กระดาษคราฟท์หรือกระดาษลูกฟูก: ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและสามารถป้องกันการกระแทกได้ดี เช่น กระดาษลูกฟูก ซึ่งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• เคลือบกันน้ำ: การใช้กระดาษที่เคลือบกันน้ำช่วยป้องกันความชื้นและน้ำมันจากไก่ทอดได้ ทำให้รักษาคุณภาพของอาหารได้ดีขึ้น

2.การออกแบบที่น่าดึงดูด

• กราฟิกและสีสัน: ใช้กราฟิกที่น่าสนใจและสีสันที่สดใสเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า การออกแบบที่มีเอกลักษณ์จะช่วยสร้างการจดจำแบรนด์
• โลโก้และข้อความ: ควรมีโลโก้ที่ชัดเจนและข้อความที่สื่อถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น “ไก่ทอดกรอบอร่อย” หรือ “สูตรพิเศษ”
• ออกแบบหน้ากล่อง: มีรูปไก่ทอด หรือ รูปไก่ เพื่อสร้างลูกเล่นให้กับกล่องใส่ไก่ทอด

3.ขนาดและรูปทรงที่เหมาะสม

• ขนาดกล่องใส่ไก่ทอด: ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับปริมาณไก่ทอดที่ต้องการบรรจุ เช่น กล่องขนาด S, M, L เพื่อให้เหมาะกับการขาย
• รูปทรงกล่อง: การเลือกใช้กล่องที่มีหูหิ้วจะช่วยให้สะดวกต่อการถือและขนส่ง

4.ฟังก์ชันการใช้งาน

• การเปิด-ปิดง่าย: ออกแบบให้กล่องสามารถเปิดและปิดได้ง่าย เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
• พื้นที่สำหรับซอส: ควรมีพื้นที่สำหรับใส่ซอสหรือเครื่องเคียง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า

5.การสร้างความประทับใจ

• คุณภาพของกล่องใส่ไก่ทอด: การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงและการออกแบบที่ดีจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
• การรีไซเคิล: เน้นการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

สรุป

การเลือกใช้กล่องใส่ไก่ทอดที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ ไม่เพียงแต่จะช่วยรักษาคุณภาพของอาหารเท่านั้น แต่ยังสามารถยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์และแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ด้วยทางเลือกที่หลากหลายและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ผู้ประกอบการสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านการใช้งานและความยั่งยืนได้อย่างลงตัว